วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ประวัติและความเป็นมา

มนุษย์ได้เลียนแบบมาจากธรรมชาติ นาฏศิลป์ในโลกไม่ว่าชาติใดภาษาใด มาจากชีวิตจริงอันเกิดจากธรรมชาติ การขับร้องฟ้อนรำ ดนตรี เริ่มต้นด้วยธรรมชาติเป็นพื้นฐาน และมีวิวัฒนาการสืบต่อกันมาตามลำดับ ตามกาลและสมัยนิยม มนุษย์ทุกชาติ ทุกภาษา มีศิลปะการร้องรำทำเพลงประจำเชื้อชาติของตนมาแต่เดิม จะสังเกตจากการเต้น การร้องของคนป่า ซึ่งยังไม่เจริญบางจำพวก จะเห็นได้ว่าศิลปะเหล่านี้สืบเนื่องมาจากธรรมชาติอย่างแท้จริง เช่น การขับร้อง แต่เดิมก่อนที่จะดัดแปลงให้ไพเราะเพราะพริ้งมีหลักเกณฑ์อย่างทุกวันนี้ ก็เป็นแต่การเปล่งเสียงออกมาตามเรื่องราว สูงบ้าง ต่ำบ้าง เพียงให้ผิดเพี้ยนไป จากการเปล่งเสียงพูดธรรมดาเท่านั้น การฟ้อนรำแต่เดิมนั้น มาจากการแสดงกิริยาอากที่มาของนาฏศิลป์ มนุษย์ได้เลียนแบบมาจากธรรมชาติ นาฏศิลป์ในโลกไม่ว่าชาติใดภาษาใด มาจากชีวิตจริงอันเกิดจากธรรมชาติ การขับร้องฟ้อนรำ ดนตรี เริ่มต้นด้วยธรรมชาติเป็นพื้นฐาน และมีวิวัฒนาการสืบต่อกันมาตามลำดับ ตามกาลและสมัยนิยม มนุษย์ทุกชาติ ทุกภาษา มีศิลปะการร้องรำทำเพลงประจำเชื้อชาติของตนมาแต่เดิม จะสังเกตจากการเต้น การร้องของคนป่า ซึ่งยังไม่เจริญบางจำพวก จะเห็นได้ว่าศิลปะเหล่านี้สืบเนื่องมาจากธรรมชาติอย่างแท้จริง เช่น การขับร้อง แต่เดิมก่อนที่จะดัดแปลงให้ไพเราะเพราะพริ้งมีหลักเกณฑ์อย่างทุกวันนี้ ก็เป็นแต่การเปล่งเสียงออกมาตามเรื่องราว สูงบ้าง ต่ำบ้าง เพียงให้ผิดเพี้ยนไป จากการเปล่งเสียงพูดธรรมดาเท่านั้น การฟ้อนรำแต่เดิมนั้น มาจากการแสดงกิริยาอาการเคลื่อนไหวโดยธรรมชาติ เมื่อเกิดการร้องและการทำจังหวะดนตรีแล้ว ความฮึกเหิมตามสัญชาติญาณก็เกิดขึ้น โดยลุกขึ้นออกท่าทางทำมือ ทำไม้ไปตามความหมาย ตามความรู้สึก การพูด การทำท่าทาง นั่ง ยืน เดิน อารมณ์ต่าง ๆ โกรธ ดีใจ เสียใจ ตลอดจนการแต่งกาย และเรื่องราวก็เลียนแบบมาจากชีวิตจริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น